บทความฉบับที่แล้ว ผมได้มีการพูดถึงการเรียนและจุดเริ่มต้นในการประกอบอาชีพ รวมถึงหน้าที่การงานของพวกเรา เหล่าเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย เปรียบเสมือน “เป็ด” หรือ “Generalist” และเมื่อมีประสบการณ์ในการทำงาน มีกระบวนการทางความคิด มีการประสานงานกับเพื่อนร่วมงานทั้งระดับเดียวกัน ระดับที่สูงกว่า เพื่อทำงานให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ เริ่มมีการเรียนรู้เพิ่มเติม เริ่มมีทัศนคติในมุม Growth Mindset จนทำให้พี่ๆ เหล่านั้น Transform ยกระดับเป็น “เป็ดพลัส” หรือ “Generalist Plus” โดยสิ่งหนึ่งที่พี่ๆ เหล่านั้นมีคือ ความชำนาญในงานที่ทำ มีความรู้จริง มีศิลปะในการพูดคุยโน้มน้าว มีเครือข่ายที่แข็งแรง มีความมุ่งมั่นที่จะทำงานนั้นให้สำเร็จอย่างไม่ย่อท้อ มีการบริหารจัดการทีมที่ทำงานร่วมกัน การบริหารงบประมาณที่มีอยู่ให้บรรลุตามที่วางแผนไว้ รวมถึงความเข้าใจบริบท และวัฒนธรรมองค์กรที่ตัวเองทำงานอยู่ เรียกได้ว่า กว่าจะฝ่าฟัน แปลงร่างจาก “เป็ด” สู่ “เป็ดพลัส” นี่ก็ต้องใช้หลากหลายกระบวนท่าที่ต้องแสวงหาความรู้ แนวคิดเพิ่มเติมนอกเหนือจากรั้วมหาวิทยาลัย

          วันนี้จะขอพูดถึง ทำอย่างไรให้ชาว “เป็ดพลัส” หรือ “Generalist Plus” แปลงโฉมหรือแปลงกาย (Transform) ไปสู่ “เป็ดพรีเมี่ยม” หรือ “Premium Generalist”

          มีพี่ๆ เรากลุ่มหนึ่ง ทั้งที่คร่ำหวอดและไม่ได้คร่ำหวอดอยู่ในวงการงาน HSE และสามารถสร้างความต่าง มี Character ที่ชัดเจนในเรื่องทัศนคติด้าน Growth Mindset และมุมมองต่อเนื้องานที่ทำ อาจจะไม่ได้จำกัดแค่งาน HSE อย่างเดียว ขยายเนื้องาน ขยายหน้างานออกไปอีกอย่างไม่จำกัด สามารถดำเนินการตามที่ผู้บริหารมอบหมายให้สำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี และบ่อยครั้งก็สามารถดำเนินการได้อย่างเหนือความคาดหมาย (Over Expectation)  มีการพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา เพิ่มทักษะอื่นๆ นอกเหนือไปจากวิชาชีพที่เรียนมา โดยเฉพาะด้านการบริหารจัดการธุรกิจ (Business Administration) เรียกว่า เก่งงานยังไม่พอ ต้องเก่งคน (มี Soft Skill มีทักษะการสื่อสื่อสาร หรือ Communication Skill และมีการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างราบรื่น หรือ Cooperative Skill)

          เนื่องด้วยงานทุกงานที่สำเร็จมักจะต้องดำเนินการผ่านทีม หรือผ่านผู้คนแทบทั้งสิ้น และที่สำคัญต้อง “เก่งคิด” การคิดอย่างเป็นระบบ “Systematic Thinking” การคิดเชิงกลยุทธ์ “Strategic Thinking” รวมถึงการผลักดันงานให้สำเร็จลุล่วง “Driving for Result” พี่ๆ กลุ่มนี้ มักมีแนวคิดการทำงาน มี Initiative ใหม่ๆ ที่สร้าง Value ที่ Impact ให้กับองค์กรเสมอๆ สามารถหาทางออกและแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้ (Operational Decision Making) และหัวใจสำคัญ คือ ต้องเข้าใจบริบทธุรกิจองค์กรเป็นอย่างดี (Business Acumen) เข้าใจกลยุทธ์องค์กร รวมถึงต้องคิดว่า ทำอย่างไร “เรา” จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของทุกการย่างก้าวขององค์กร เพื่อสนับสนุนให้องค์กรเดินไปสู่เป้าหมายที่วางไว้

          ที่กล่าวมา ดูเหมือนจะฟุ้งๆ และอะไรมันจะเยอะขนาดนั้น อย่าลืมนะครับว่า เรากำลังแปลงร่าง แปลงสถานะจาก “เป็ดพลัส” ไปสู่ “เป็ดพรีเมี่ยม” มันก็ต้องนิดนึง แต่ทุกสิ่งเป็นไปได้ครับ ผมขอยกตัวอย่าง “เป็ดพรีเมี่ยม” ที่เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องเราชาว Occ ให้พวกเราได้รับรู้และทราบว่าพี่ๆ เหล่านี้ มีตัวตนอยู่จริง เช่น พี่โอ วิชัย (Sustainable Development Director : SCG) พี่เล็ก ธวัชชัย (Strategic Account Manager : 3M) พี่ป้อม ศักดิ์ศิลป์ (ผู้ตรวจราชการ : กระทรวงแรงงาน) พี่ภัทรา (Key Account Manager : ISC) พี่ทิน ชัยธนา (Business Owner : Sicher) พี่เอี๋ยม วีระพล (Business Owner : ภัตราคารสวนกุหลาบ) พี่โนรี จันจิรา (รองคณบดี PH : ม.วลัยลักษณ์) พี่ชลาลัย (คณบดี PH : ม.เทคโนโลยีสุรนารี) พี่ยิบ สุภาภรณ์ (คณบดี PH : ม.วลัยลักษณ์) พี่โด่ง วรากร (VP Tech Safety : GC) พี่ซัน ธวัชชัย (VP SHE : GC) พี่ต้า (VP Adm : GC) พี่ชูเกียรติ (VP HSE : TPAC) พี่บัท บัญชา (รอง ผอ : สสปท.) พี่ปราโมทย์ (Safety Coach : Business Owner) พี่กล้วย วิชัย (Business Owner : CEO บ.Thai Safecon and Engineering) เป็นต้น

          นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่พอนึกได้เร็วๆ ซึ่งผมมีข้อสังเกตหนึ่งที่ “เป็ด” ทุกท่านดังกล่าวข้างต้น มีคุณสมบัติที่คล้ายๆ กัน คือ คิดเชิงกลยุทธ์ มีการวางแผนที่ดีเยี่ยม คิดนอกกรอบ ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง ไม่ยอมแพ้ มักจะมองหาโอกาส Trend ใหม่ๆ หาช่องว่างเพื่อช่วยแก้ปัญหา (ถึงแม้บางครั้งจะไม่เกี่ยวกับงานด้าน HSE ก็ตาม) มีมุมมองด้านธุรกิจ และเป็นหนึ่งเดียวในการทำธุรกิจขององค์กรที่ตัวเองสังกัด

          นี่คือสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้เกิดความก้าวหน้าในทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บริหารองค์กร หรืออาจกล่าวได้ว่า พี่ๆ เหล่านี้ ได้ Transform เป็น “เป็ดพรีเมี่ยม” หรือ “Premium Generalist” เรียบร้อยแล้ว

          ครั้งที่แล้วแตะเรื่องชุด Mindset ไว้แล้ว และแน่นอนที่สุดว่า Growth Mindset ก็เป็นคุณลักษณะเด่นของพี่ๆ เหล่านี้เช่นกัน นอกจากนี้ ผมยังเชื่อว่ามีแนวคิดอื่นๆ อีกมากมายที่ใช้เป็นพื้นฐานของวิธีคิดที่จะพาเราไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่เราวางไว้ สำหรับวันนี้ ผมขอหยิบเอาวิธีคิดแบบ The Three Circle of Influence ของ Stephen R. Covey’s มานำเสนอ อยากให้พวกเราลองศึกษาและทำความเข้าใจดู สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก website หรือ You tube ตามอัธยาสัย โดยส่วนตัว ชอบและคุ้นชินกับวิธีคิดนี้ เราสามารถ Control ในสิ่งที่เราทำได้ เราต้องทำเลย ไม่รอช้า เก็บให้หมด (COC : Circle of Control) และบางสถานการณ์ มันเอื้อให้เราคิดนอกกรอบ ก้าวออกนอก Comfort Zone หรือดึงศักยภาพของเราออกมาใช้มากขึ้น ออกแรงกายแรงความคิดอีกหน่อย เพื่อนำเสนอทางออกหรือแก้ไขปัญหา เราก็ควรจะทำเพื่อความสำเร็จนั้น เราเรียก Phase นี้ว่า COI (Circle of Influence) แต่หากสุดมือเอื้อมจริงๆ เราเต็มที่กับมันแล้ว และไม่ได้จริงๆ เกินกำลัง เราก็ต้องหยุด ต้องเข้าใจ และ Reset ไม่ไปเสียเวลาวนในอ่างกับมันอีก เพราะมันเป็นแค่ข้อห่วงกังวล (COC : Circle of Concern) แล้วก็เดินหน้าต่อ ไม่ไปจมอยู่กับมันหรือหาคนผิด โทษนั่นโทษนี่ ผมเชื่อว่า วิธีคิดเหล่านี้ ทำให้เรามีความสุขกับการทำงานมากขึ้น

          พวกเราคนไหน มีประสบการณ์ หรือได้ทดลองศึกษาเพิ่มเติมมาแล้ว และได้ผลอย่างไร ก็สามารถ share ให้สมาชิก ส.อ.ป. ทราบกันบ้างนะครับ

          ฉบับหน้า พบกับ “เป็ด” กลุ่มสุดท้ายที่ผมจะพูดถึง คือ “เป็ดเทพ” หรือ “เป็ดยูนิคอน” ว่าจะมีคุณสมบัติอย่างไร และมีพี่ๆ น้องๆ เราคนไหนที่มีคุณสมบัติเหล่านั้นบ้าง