การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุจากไฟฟ้าเบื้องต้น
เผยแพร่เมื่อ 21/07/2564...,
เขียนโดย คุณอภิวัฒน์ ยังวิลัย
นักปฏิบัติงานเทคนิค (จป.วิชาชีพ)
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมาบตาพุด...,
เรื่อง การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุจากไฟฟ้าเบื้องต้น
กระแสไฟฟ้าถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินชีวิตของทุกคน แต่ก็แฝงไปด้วยอันตรายถ้าหากเกิดการนำไปใช้งานอย่างผิดวิธี เช่น การต่อเครื่องใช้ไฟฟ้ากับกระแสไฟฟ้าโดยตรงจากสายไฟเส้นหลัก หรืออุปกรณ์ที่ใช้งานเกิดการชำรุด เช่น ฉนวนของสายไฟของเครื่องใช้ไฟฟ้าเกิดการฉีกขาด รวมไปถึงการเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟรั่วได้ นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ปฏิบัติงานกับระบบจำหน่ายไฟฟ้าก็อาจเกิดอันตรายจากไฟฟ้าได้เช่นกันโดยความรุนแรงของผลกระทบที่เกิดขึ้นจะแปลผันไปตามแรงดันไฟฟ้า ซึ่งผลกระทบอาจเกิดตั้งแต่ แผลไหม้ หมดสติ ไปจนถึงเสียชีวิต ดังนั้นการที่เราทราบวิธีการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุจากไฟฟ้าจะสามารถลดความรุนแรงของผลกระทบที่เกิดขึ้นได้
ผู้ที่ประสบเหตุจากไฟฟ้านอกจากจะเกิดบาดแผลบริเวณที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่านแล้ว อาจเกิดการหมดสติและหัวใจหยุดเต้นได้ ดังนั้นวิธีการช่วยเหลือจำง่ายๆ ด้วย 4 ขั้นตอนต่อไปนี้
แยก: ทำการแยกผู้ประสบเหตุออกจากสายไฟฟ้าหรือพื้นที่ที่เป็นส่วนหนึ่งของวงจรไฟฟ้า โดยผู้ช่วยเหลือต้องทำการตัดกระแสไฟฟ้าให้ไวที่สุด แต่ถ้าไม่สามารถตัดกระแสไฟฟ้าได้ ให้ใช้วัตถุที่เป็นฉนวนเขี่ยสายไฟออก เช่น ไม้ฉนวน (Hot stick) ท่อนไม้ รองเท้ายาง หรือใช้อุปกรณ์ฉนวน เช่น แผนยางฉนวน (Insulated blanket) ถุงมือยางกันไฟฟ้า (Rubber Gloves) หรือใช้ผ้าหนาๆ หุ้มแขนหรือขาของผู้ประสบเหตุแล้วดึงผู้ประสบเหตุออกมา
ตรวจ: ทำการตรวจบาดแผลเบื้องต้นด้วยสายตา และตรวจสอบว่าผู้ประสบเหตุรู้สึกตัวหรือไม่โดยการเขย่าตัวและขานเรียก ถ้าผู้ประสบเหตุหมดสติให้ตรวจสอบว่ายังมีสัญญาณชีพจรและยังหายใจอยู่หรือไม่
นวด: ในกรณีที่ผู้ประสบเหตุไม่มีสัญญาณชีพจร ให้ทำการนวดหัวใจเพื่อฟื้นคืนชีพ สามารถทำได้โดยการจัดให้ผู้ประสบเหตุนอนหงาย เปิดทางเดินหายใจโดยการกดหน้าผากและเชยคางผู้ประสบเหตุ และตรวจสอบสิ่งแปลกปลอมในช่องปากของผู้ประสบเหตุ จากนั้นทำการนวดหัวใจโดยการประสานมือและวางไปที่แนวกึ่งกลางหน้าอกของผู้ประสบเหตุ และนวดหัวใจโดยให้หน้าอกยุบตัวลงประมาณ 1.5 – 2 นิ้ว ด้วยอัตราเร็วประมาณ 100 ครั้ง/นาที
ส่ง: ในระหว่างที่นวดหัวใจผู้ประสบเหตุ ให้โทรแจ้งสายด่วน 1669 เพื่อมารับผู้ประสบเหตุไปยังโรงพยาบาล โดยแจ้งรายละเอียดสถานที่ จำนวนผู้ประสบเหตุ ลักษณะการบาดเจ็บและอาการปัจจุบัน และเบอร์ติดต่อกลับ
