การพัฒนากฎความปลอดภัย และการนำไปสู่การปฎิบัติ
เผยแพร่เมื่อ: 28/05/2563....,
เขียนโดย คุณสวินทร์ พงษ์เก่า, Meet the Professional...,
"การพัฒนากฎความปลอดภัย และการนำไปสู่การปฎิบัติ”
ในการบริหารงานอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ให้บรรลุตามเป้าหมาย ซึ่งต้องมีทั้งมาตรการเชิงรุก(มุ่งป้องกัน) และมาตรการเชิงรับ (การแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น) โดยหลักที่ ใช้กันอยู่ เรา ใช้หลัก 3 ประการ ( 3E ) คือ
1. การควบคุมทางวิศวกรรม (Engineering )
2. การให้การศึกษาและให้ความรู้อย่างท่องแท้และต่อเนื่อง (Education )
3. การควบคุมโดยใช้กฎระเบียบอย่างเคร่งครัดและเหมาะสม ( Enforcement)
การพัฒนากฎความปลอดภัยที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความเสี่ยงขององค์กร จึงเป็นแนวทางที่สำคัญและเป็นพื้นฐานส่วนหนึ่งของในการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย แต่ปัญหาของการใช้กฎเพื่อควบคุม อยู่ที่จะทำอย่างไรจึงจะมีการใช้กฎอย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพสูงสุด จะมีกฎเรื่องใดบ้างที่จะนำมาใช้ในการควบคุมความสูญเสีย และจะบริหารกฎความปลอดภัยดังกล่าวได้อย่างไร
การพัฒนากฎความปลอดภัยที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความเสี่ยงขององค์กร ขึ้นอยู่กับปัจจัย 3 ประการ
- ความจำเป็นในการออกกฎ
- ระบบในการจัดการเกี่ยวกับการออกกฎ การนำกฎไปสู่การปฎิบัติ การปรับปรุงกฎให้เหมาะสม
- การยอมรับของผู้ที่ต้องปฎิบัติตามกฎ
หากองค์กร ไม่สามารถคบคุม ทั้ง 3 ปัจจัยได้อย่างเหมาะสม ก็อาจจะนำ ไปสู่ การฝ่าฝืนกฎ ซึ่งนับว่าเป็นความบกพร่องประการหนึ่งในการบริหารจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย และอาจเป็นเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ และความสูญเสียถึงขั้นรุนแรงได้
อะไรคือสาเหตุที่ผู้ปฏิบัติงานไม่ปฏิบัติตามกฎที่องค์กรกำหนดขึ้น
- ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำไปเป็นการฝ่าฝืนกฎ
- ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้สอดคล้องกับกฎที่องค์กรกำหนดขึ้น
- ไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมต้องทำตามกฎ
- ขาดการสื่อสารกฎอย่างมีประสิทธิภาพ จากผู้บริหารและหัวหน้าผู้ควบคุมงาน
- มีวิธีการที่ดีและเหมาะสมกว่า การใช้กฎมาควบคุมความเสี่ยง
- ไม่มีระบบการสร้างแรงจูงใจในการปฎิบัติตามกฎอย่างเหมาะสม
ในการจัดทำกฎความปลอดภัยจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะนำปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นในการบริหารจัดการนะบบกฎความปลอดภัยที่เหมาะสม และควบคุมการปฎิบัติอย่างต่อเนื่อง
ชนิดของกฎความปลอดภัย
กฎความปลอดภัย แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. กฎความปลอดภัยทั่วไป จะเป็นกฎที่นำมาใช้กับทุกคนที่เข้ามาในพื้นที่ขององค์กร
2. กฎความปลอดภัยเฉพาะงาน/พื้นที่ จะใช้เฉพาะกลุ่มงานที่เกี่ยวข้องตามที่กำหนด โดยแยกเป็นกฎเฉพาะกลุ่มหรือเฉพาะพื้นที่ ซึ่งการนำกฎมาใช้งานจะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม โดยพิจารณาว่ากฎจะนำมาใช้กับใคร และจะให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าใจในการใช้กฎได้อย่างไร
กฎความปลอดภัยทั่วไป ( General Safety Rules)
(ตัวอย่าง)
- ให้ปฏิบัติงานตามขั้นตอนการปฏิบัติงาน อย่างเคร่งครัด
- รายงานหัวหน้างานให้ทราบทันที เมื่อเห็นสถานการณ์ หรือการปฏิบัติงานใด ๆ ที่ไม่ปลอดภัย อันอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บกับตนเองและผู้อื่น หรือเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน กระบวนการผลิตและสิ่งแวดล้อม
- ให้เลือกใช้เครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ ให้มีความเหมาะสมกับลักษณะงาน และอยู่ในสถานที่ปลอดภัยก่อนที่นำมาใช้งานทุกครั้ง
- การใช้ ปรับแต่ง เปลี่ยนแปลง หรือบำรุงรักษาอุปกรณ์ ต้องกระทำโดยผู้ที่มีหน้าที่เท่านั้น
- ให้สวมใส่ อุปกรณ์คุมครองความปลอดภัยส่วนบุคคล ตลอดระยะเวลาที่มีการปฏิบัติหน้าที่ มีความเสี่ยงอันอาจก่อให้เกิดการเกิดอุบัติเหตุ และบำรุงรักษาอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยบุคคล ให้อยู่ในสภาพที่ดี และพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
- ห้ามเล่น หยอกล้อกันในขณะปฏิบัติงานอยู่
- ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ คำเตือน เครื่องหมาย ป้ายต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด
General Safety Rules
- Follow instruction; don t take chances. If you don t know, ask.
- Report immediately any condition or practice you think might cause injuly and waste time, energy, and material. Keep your work area clean and orderly.
- Put everything you use in its proper place. Disorder causes injury and waste time, energy, and material. Keep your work area clean and orderly.
- Use the right tools and equipment for the job and use them safety.
- Whenever you or the equipment you operate is involved in an accident, regardless of how minor, report it immediately. Get first aid promptly.
- Use, adjust, alter, and repair equipment as directed. Keep it in good condition.
- Don t horseplay: avoid distracting others.
- When lifting, bend your knees, grasp the load firmly, then raise the load keeping you back as straight as possible. Get help for heavy loads.
- Obey all rules, signs, and instructions.
กฎความปลอดภัยเฉพาะงาน /พื้นที่ จะนำมาใช้กับ
- อาชีพ ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ช่างไฟฟ้า พนักงานบำรุงรักษา เป็นต้น
- พื้นที่ปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น พื้นที่อับอากาศ พื้นที่ที่มีการใช้แผ่รังสี ก่อไอออน เป็นต้น
- งานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น งานทำความสะอาดถังน้ำมัน งานเชื่อมไฟฟ้า เป็น
กฎความปลอดภัยในการทำงานในพื้นที่อับอากาศ
(ตัวอย่าง)
- ให้ปฏิบัติงานตามขั้นตอนการปฏิบัติงาน อย่างเคร่งครัด
- รายงานหัวหน้างานให้ทราบทันที เมื่อเห็นสถานการณ์ หรือการปฏิบัติงานใด ๆ ที่ไม่ปลอดภัย อันอาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บกับตนเองและผู้อื่น
- ต้องได้รับอนุญาต จากผู้อนุญาตที่ได้รับการแต่งตั้ง ก่อนเข้าไปทำงานในที่อับอากาศและปฎิบัติ ตามรายละเอียดที่ระบุใน ใบ confine space permit อย่างเคร่งครัด
- ไม่ทำงาน Hot work ยกเว้นที่การปฎิบัติ ตาม ระบบการทำงาน Hot work อย่างเคร่งครัด
- ให้สวมใส่ อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล ตลอดระยะเวลาที่มีการปฏิบัติหน้าที่ มีความเสี่ยงอันอาจก่อให้เกิดการเกิดอุบัติเหตุ และบำรุงรักษาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลให้อยู่ในสภาพที่ดี และพร้อมใช้งานอยู่เสมอ
- ห้ามเล่น หยอกล้อกันในขณะปฏิบัติงานอยู่
- ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ คำเตือน เครื่องหมาย ป้ายต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด
การบริหารกฎความปลอดภัยและการนำกฎความปลอดภัยไปสู่การปฎิบัติ
การฝ่าฝืนกฎ ระเบียบและขั้นตอนการทำงาน ที่องค์กรกำหนดขึ้นเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุและความสูญเสีย การบริหารจัดการที่ดีจะช่วยควบคุมให้การออกกฎ การปฎิบัติเป็นไปตามกฎ ระเบียบที่กำหนดไว้
การบริหารจัดการกฎความปลอดภัยให้มีประสิทธิผล มีแนวทางปฎิบัติ 4 ขั้นตอน ดังนี้
- ขั้นตอนการเตรียมการออกกฎ
- ขั้นตอนการนำเสนอกฎ
- ขั้นตอนการควบคุมให้เป็นไปตามกฎ
- ขั้นตอนการส่งเสริมให้มีการปฎิบัติตามกฎ
1. ขั้นตอนการเตรียมการออกกฎ
ในการออกกฎใดๆขึ้นมาใช้ในองค์กร ย่อมส่งผลกระทบกับผู้ปฎิบัตงานเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการออกกฎจึงควรพิจารณาดังนี้
• ใช้หลักการมีส่วนร่วม
หลักการมีส่วนร่วม ให้ผู้มีผลกระทบกับการใช้กฎ ได้มีส่วนร่วมในการออกกฎ เช่น มีช่องทางในการเสนอแนวทาง และให้ความเห็น ถึงความเหมาะสมของกฎและความเหมาะสมในการนำไปใช้ มีการนำการเสนอแนะ จากผู้มีผลกระทบกับการใช้กฎ ไปพิจารณาอย่างจริงจัง
•ใช้หลัก เริ่มแต่น้อย ค่อยเป็นค่อยไป
อย่าออกกฎ ควบคุม กับทุกเรื่อง การออกกฎในระยะแรกควรมุ่งไปที่จุดที่ก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างรุนแรงก่อน (Major loss) และ เป็น งาน/พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงเป็น ( High risk task / area)
•ใช้กฎ “ KISS ” “ Keep it short and simple" “
ไม่ควรใช้ภาษาที่ เข้าใจยาก มีรายละเอียดที่ซับซ้อน ความหมายกำกวม ให้ยึดหลักการออกกฎ สั้นแต่ง่ายชัดเจนและนำไปสู่การปฎิบัติได้โดยไม่ต้องตีความ
•ออกกฎที่สามารถปฎิบัติได้ และเป็นไปได้ที่จะเกิดความสำเร็จในการใช้กฎเพื่อควบคุมความเสี่ยง
•กำหนดวัตถุประสงค์ของการออกกฎให้ชัดเจน
•มีการทบทวนกฎเป็นระยะ
2. ขั้นตอนการนำเสนอ เพื่อการสื่อสารความเข้าใจในกฎให้เป็นไปในแนวเดียวกัน
•แจกจ่ายกฎยังผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องทุกคน
ต้องมีการแจกจ่ายกฎความปลอดภัยไปยังผู้ปฎิบัติงาน ในพื้นที่ที่ต้องปฏิบัติตามกฎและควรมีการสอบถามความเห็น จดบันทึกความเห็นเหล่านั้น เพื่อเป็นข้อมูลในการหาข้อสรุปร่วมกัน
•แสดงสาธิตให้เห็นและอธิบายให้ชัดเจน (Show and tell)
เพื่อกระตุ้นความสนใจ และเพื่อเพิ่มความเข้าใจ มีการอธิบายให้ชัดเจนว่า กฎแต่ละข้อมีความหมายอย่างไร ปฎิบัติได้อย่างไร มีความสำคัญอย่างไร นอกจากนั้นยังจะใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องสาธิตร่วมด้วย หรือจะใช้ ภาพถ่าย สไลด์ แผ่นใส ฯ ร่วมด้วยจะเป็นการเพิ่มความชัดเจนมากขึ้น โดยต้องเน้นการสื่อสาร 2 ทาง
•ทดสอบความเข้าใจในกฎ
ทดสอบว่าผู้ปฏิบัติงานได้เข้าใจ เกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎมากน้อยเพียงใด และถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของการมีกฎหรือไม่ จัดทำแบบทดสอบความเข้าใจ ซึ่งการทดสอบความเข้าใจกฎ สามารถทำได้ทั้งข้อเขียน และปากเปล่า ควรนำผลของการทดสอบมาอภิปรายแลกเปลี่ยนเพื่อความเข้าใจมากขึ้น สุดท้ายควรสรุปผลการนำเสนอเกี่ยวกับกฎอีกครั้ง
3. ขั้นตอนการควบคุมให้เป็นไปตามกฎ
การบังคับให้ปฏิบัติตามกฎ เป็นการควบคุมการจัดการในการทำงาน
•การตรวจวัดสถานะภาพ (Measuring performance )
•การประเมินผลการนำไปปฏิบัติ ( Evaluating compliance)
•การเสนอแนะและแก้ไข (พฤติกรรม) ( Commendation and correction behaviors)
การควบคุมให้เกิดการปฎิบัติ จะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและเหมาะสม มีการสื่อสารเกี่ยวกับกฎ , วัตถุประสงค์ของการมีกฎ , นโยบายและขั้นตอนกับผู้ปฎิบัติงานให้ทราบอย่างชัดเจน ควรมีการเก็บข้อมูลและบันทึกข้อมูล เช่น
•ข้อมูล การถกอภิปรายเกี่ยวกับกฎ ป้ายห้ามที่เลือกโดยผู้ปฏิบัติงาน ข้อมูลแสดงการรับทราบกฎ ความเข้าใจ และประเด็นถกเถียง
•ข้อมูลเกี่ยวกับการอภิปรายโดยกลุ่ม ข้อมูลการประชุม
•ข้อมูลเกี่ยวกับการทบทวนกฎและการอบรมซ้ำ
•ข้อมูลตัวบุคคลที่ฝ่าฝืนกฎ
•ข้อมูลเกี่ยวกับการชมเชย ที่ทำกับกลุ่มหรือรายบุคคล
4. ขั้นตอนการส่งเสริมให้มีการปฎิบัติตามกฎ
การสนับสนุนให้ปฏิบัติตามกฎ เป็นการส่งเสริมทางบวกที่จะสร้างการยอมรับการปฏิบัติตามกฎมากขึ้น ซึ่งอาจกระทำเป็นรายบุคคล หรือกลุ่ม สามารถดำเนินการได้ดังนี้
•อภิปรายในที่ประชุมกลุ่ม
•การชี้แจ้งแบบรายบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกฎนั้นๆ
•การใช้ การสื่อสารประชาสัมพันธ์ ในรูปแบบต่างๆ เช่น โปสเตอร์ facebook line เป็นต้น
•การแข่งขันและการให้รางวัล เพื่อให้เกิดความภูมิใจ
•การทบทวนอย่างเป็นทางการเป็นระยะเพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุง
หากองค์กร ได้มีการบริหารจัดการ กฎความปลอดภัยเป็นระบบ อย่างเหมาะสมแล้ว และผู้บริหาร มีวิสัยทัศน์ สู่ความเป็นศูนย์ ( Vision zero) ซึ่ง เป็น แนว การสร้างวัฒนธรรมการป้องกัน ( Prevention culture ) เชื่อมโยงด้วย การสื่อสารที่ชัดเจน และได้รับการยอมรับ จาก ผู้ปฎิบัติงาน ทุกคน อย่างเหมาะสม ก็จะทำองค์กรสามารถ ควบคุมความเสี่ยง และลดความสูญเสีย ที่อาจจะเกิดขึ้น ได้อย่างมีประสิทธิผลและประสิทธิภาพ ต่อไป