“อุบัติเหตุหลงเหลืออะไรมากกว่าที่คุณคิด”

เผยแพร่เมื่อ:  20/01/2563 ....,

เขียนโดย มาฆภรณ์ เพ็ชรเขียว, Safety Professional...,

 

✈️ “อุบัติเหตุหลงเหลืออะไรมากกว่าที่คุณคิด”

ได้รับเกียรติจากท่านอาจารย์สราวุธ นายกสมาคม ส.อ.ป. ที่เคารพให้มาแบ่งปันประสบการณ์การทำงานที่ประทับใจ และอาจเป็นประโยชน์ต่อคนทำงานด้านนี้ ยินดีอย่างยิ่งและตื่นเต้นเพราะความจำเป็น และความท้าทายที่มีคือ คอมพิวเตอร์ แลปท็อปที่ใช้อยู่ไม่มีแป้นภาษาไทย และตัวเราเองก็ทำงานอยู่ต่างบ้านต่างเมือง..เดินทางบ่อย เพราะหน้าที่ที่รับผิดชอบอยู่ต้องดูแล 11 ประเทศในภาพพื้นเอเชียแปซิฟิค.

อุปสรรคไม่เคยมีอยู่จริง คือหนังสือที่เพิ่งอ่านจบไป หลังจากโหมงานหนักมาหลายสัปดาห์ งั้นก็เริ่มเลย ระหว่างนั่งเรือกลับจากเกาะแห่งหนึ่งของอินโดนีเซีย

เรื่องที่จะแบ่งปัน ก็มีความเกี่ยวเนื่องกับประเทศนี้ด้วย ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน ประมาณ 8-9 ปีได้ ตอนนี้ทำงานประจำที่สิงคโปร์และลาพักร้อนหลับมาเยี่ยมบ้านที่เมืองไทย ระหว่างเดินดูของที่ outlet มีโทรศัพท์จากสิงคโปร์เข้ามา พอรับสาย ปรากฏว่าเป็นผู้จัดการทีมให้บริการหลังการขาย หรือ field services โทรมาขอให้อนุมัติเฮลิคอปเตอร์ซึ่งต้องบินด่วนเพื่อไปรับพนักงานจากแท่นเจาะน้ำมันแท่นหนึ่งในอ่าวไทยกลับมารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพราะประสบอุบัติเหตุ เราก็งงๆ เอทำไมเป็นเราหนอ ก็เราแลเฉพาะกลุ่ม โรงงานผลิตในทวีปแต่ไม่รวมทีมให้บริการหลังการขาย เลยแนะนำไปให้โทรหาอีกคนซึ่งดูแลงานกลุ่มนี้ของ Global เค้าขอบคุณรีบๆ แล้วก็วางไป เราก็ยังคิดๆ อยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็บอกตัวเองกลับออฟฟิศที่สิงคโปร์ต้องไปตาม

อีกสองสามวันก็กลับไปทำงานหลังจากลาพักร้อน พอมีช่วงเวลาก็ไปหาผู้จัดการคนนั้นเลยถามไถ่ว่าเกิดอะไรขึ้น ทราบความมาว่า พนักงานเรา วิศวกรหนุ่มจากอินโดนีเซียประสบอุบัติเหตุ และจำเป็นต้องนำกลับมารักษาที่โรงพยาบาลที่ฝั่ง แต่ก็สายไป เพราะน้องวิศวกรคนนั้นเสียชีวิตระหว่างที่นำตัวกลับมา ที่แย่กว่านั้น ทราบมาว่าน้องอาศัยอยู่กับแม่แค่เพียงสองคนงานแท่นขุดเจาะหลายท่านคงทราบดีว่ารอบการทำงานยาวและก็กลับมาพักยาว น้องวิศวกรคนนี้ก็มีรอบทำงานคล้ายๆ กันคือ ทำงานสี่สัปดาห์และหยุดพักสี่สัปดาห์ตามกฎระเบียบด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย สำหรับงานแท่นขุดเจาะ ความยากลำบาก ณ เวลานั้นคือ ใครจะนำข่าวร้ายนี้ไปแจ้งแม่ของน้องวิศวกรคนนี้ คิดตระหนกกันไปต่างๆ นาๆ บอกไปแล้วแม่น้องจะมีปฏิกิริยาตอบกลับอย่างไร แล้วชีวิตที่เหลือต่อจากนี้ แม่น้องจะอยู่อย่างไร อยู่กับใคร จากชีวิตที่รู้ว่าอยู่แต่ละวันเพื่อรอเจอลูกชายคนเดียวกลับมา ต่อจากนี้คำว่าครอบครัวคือตัวคนเดียวช่างเป็นสถานการณ์อันน่าอึดอัดอย่างยิ่ง ท้ายแล้วใครเป็นแจ้งเราไม่ได้ตาม

ถามถึงสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ เป็นความตั้งใจดีของน้องวิศวกรแต่ผิดที่ ผิดทาง ผิดเวลา ด้วยความเป็นเด็กขยัน พอตื่นเช้ามา จัดการตัวเอง ทานข้าวเสร็จสรรพ เลยไปรอหน้างาน และเตรียมอุปกรณ์แถวๆ ปากหลุมเจาะ ก้มๆ เงยๆ โชคร้ายคนขับเครนมองไม่เห็นเหวี่ยงเครนผ่านกระแทกเข้ากับศีรษะน้องได้รับบาดเจ็บ พอให้การรักษาพยาบาลที่หน่วยงานการแพทย์ที่แท่น จำเป็นต้องส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลด่วน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ต้องโทรหาด่วนๆ ด้วยเงื่อนไขการอนุมัติเฮลิคอปเตอร์ต้องมีสามหน่วยงานอนุมัติ และหัวหน้าหน่วยงานความปลอดภัยระดับภูมิภาคเป็นหนึ่งในนั้น

ความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่ได้อยู่แต่ช่วงเวลาสั้น แต่มันคือชีวิตที่เหลืออยู่ของใครบางคน จากนั้นมา ก็ได้ใช้เรื่องราวนี้ เป็นเรื่องกระตุ้นจิตสำนึกว่าทำไม การป้องกันไม่ให้อุบัติเหตุเกิดขึ้นจึงสำคัญ และดีกว่าการแก้ไข หลังเกิดเหตุไปแล้ว  เริ่มง่ายๆ จากอุบัติเหตุจากการทำงาน ซึ่งเรามีหน้าที่รับผิดชอบเต็มตามภาระหน้าที่ และเริ่มขยายออกไปถึงอุบัติเหตุนอกงาน

ตอนทำงานแท่นประทับใจ ผจก. แท่นฝรั่งคนหนึ่ง ซึ่งไม่แน่ใจว่าเค้าพูดไผเพราถูกสอนมา หรือเพราะเค้าเห็นความสำคัญจริงๆ เค้าจะมาต้อนรับทีมที่ลงไปแท่นงหลังอบรม Safety induction จบ เค้าจะบอกว่า ความปลอดภัยคือหัวใจที่นี่ ถ้าใครที่ลงมาแท่นนี้แล้วเลือกที่จะทำงานเสี่ยง แสดงว่าท่านไม่อยากทำงานกับเราและเชิญกลับได้เลย เฮลิคอปเตอร์ที่มาส่งยังรออยู่ เป็นข้อความสั้นๆ ง่ายๆ แต่ทรงพลัง แล้วใครล่ะจะประมาท ทำงานเสี่ยง ลองเอาไปใช้ได้นะคะ เพราะบางที หลายที การเล่นบทโหด อาจจะไม่ได้โหดร้ายไปกว่า การขอแสดงความเสียใจเมื่อสายไป เพราะอุบัติเหตุบางทีหลงเหลือความเจ็บปวด ไว้มากกว่าที่เราคิด 

Visitors: 415,034